วันเสาร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Present Continuous Tense

Present Continuous Tense

1. รูปแบบประโยค

ประโยคบอกเล่า

ประธาน (Subject)กริยา (be + กริยาเติม ing)
Warawanis smiling.

ประโยคคำถาม

Beประธาน (Subject)กริยาเติม ing
IsWarawansmiling?

ประโยคปฏิเสธ

ประธาน (Subject)benotกริยาเติม ing
Warawanisnotsmiling.

2. หลักการเติม ing ท้ายกริยา

กริยาโดยทั่วไป เติม ing ท้ายคำได้ทันที แต่ มีข้อยกเว้น ดังนี้
  1. คำพยางค์เดียวที่มีสระตัวเดียวและมีตัวสะกดตัวเดียว และถ้ามีเป็นคำที่มีมากกว่า 1 พยางค์ ต้องออกเสียงหนัก(stress)ที่พยางค์หลัง ต้องเพิ่มตัวสะกดอีก 1 ตัว แล้วจึงเติม ing เช่น
    run -> running
    stop -> stopping
    begin -> beginning
    แต่ open -> opening (เพราะออกเสียงหนักที่พยางค์หน้า)
  2. คำที่ลงท้ายด้วย e และไม่ออกเสียงตัว e ให้ตัด e ทิ้งก่อน แล้วจึงเติม ing เช่น
    make -> making
    use -> using ใช้
  3. คำที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วจึงเติม ing เช่น
    tie -> tying
    die -> dying
    lie -> lying

3. การใช้ Present Continuous Tense

  1. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นในขณะที่กำลังพูด มักจะมีคำว่า now เพื่อบอกว่ากำลังทำอยู่ หรือ กำลังเกิดขึ้น (กริยาบางตัวไม่สามารถใช้ Tense นี้ได้) เหตุการณ์กำลังเกิดขึ้น
    You are studying English now.
    You are not running now.
    Are you sleeping?
    They are reading their books.
    They are not watching television.
  2. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังทำอยู่ในช่วงนี้ แต่อาจจะไม่กำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดก็ได้ เช่น ประโยคต่อไปนี้ อาจจะพูดในขณะกำลังนั่งคุยกันเล่น เป็นการเล่าสู่กันฟังว่า ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ คำว่า now ในภาษาอังกฤษ อาจจะหมายถึง เดี๋ยวนี้ วันนี้ อาทิตย์นี้ เดือนนี้ ปีนี้ ก็ได้ (แต่ชีวิตนี้มันจะยาวไปนะ) เหตุการณ์เกิดขึ้น ในช่วงเวลาที่พูด
    I am studying to become a doctor. (ผมกำลังเรียนหมอ)
    I am not studying to become a dentist. (ฉันกำลังเรียนเป็นหมอฟัน)
    I am reading the book Kathi's Happiness by Ngampan. (ผมกำลังอ่านหนังสือเรื่องความสุขของกะทิ แต่งโดย งามพรรณ -- ขณะพูดไม่ได้กำลังอ่าน แต่เล่าให้ฟัง การอ่าน อาจต้องใช้เวลา 2-3 วัน)
    I am not reading any books right now. (ตอนนี้ไม่ได้อ่านหนังสืออะไรเลย)
    Are you working on any special projects at work?
    Aren't you teaching at the university now?
  3. ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เหตุการณ์จะเกิดเร็ว ๆ นี้
    • I am meeting some friends after work. (หลังเลิกงานเดี๋ยวผมไปหาเพื่อนหน่อย)
    • I am not going to the party tonight. (คืนนี้ผมไม่ไปงาน)
    • Is Somsak visiting his parents next weekend? (เสาร์-อาทิตย์นี้ สมศักดิ์จะไปหาพ่อแม่เขาหรือเปล่า)
    • Isn't he coming with us tonight? (เขาไม่ไปกับเราคืนนี้หรือ?)
  4. ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นเหตุการณ์ที่มักจะไม่ค่อยดี เช่น มาสายเสมอ เป็นต้น ข้อสังเกตุคือ จะมีคำว่า always หรือ constantlyอยู่ด้วย เพื่อเน้นว่า เกิดเป็นประจำ(น่าเบื่อหน่ายเหลือ เกิน) ในความหมายนี้ จะคล้ายกับ Present Simple ในกรณีพูดสิ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เป็นนิสัย แต่ความหมายของ Present Continuous Tense นี้ เป็นไปในทางลบ เหตุเกิดประจำ น่าเบื่อหน่าย
    • She is always coming to class late. (เจ้าหล่อนมาสายประจำ)
    • He is constantly talking. I wish he would shut up. (หมอนั่นคุยไม่หยุด อยากให้หุบปากบ้าง)
    • I don't like them because they are always complaining. (ผมไม่ชอบพวกนั้นเลย ชอบบ่นเป็นประจำ)

    • ระวัง กริยาบางตัวกำกวม สามารถเติม -ing ได้ และ ไม่ได้

      กริยาพวกนี้ เช่น to appear, to feel, to have, to hear, to look, to see, to weigh...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น